วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มุมไบ

มุมไบ (Mumbai) หรือ บอมเบย์ (Bombay) ในอดีต มีฐานะเป็นเมืองหลวงของรัฐมหาราษฏระ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศอินเดีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่เกาะ 7 เกาะ ที่แยกออกจากแผ่นดิน ก่อนจะเชื่อมต่อกันเมื่อร่องน้ำลำคลองตื้นเขินและกลายเป็นแหลมยื่นออกไปใน ทะเลยาว 22 กิโลเมตร อย่างในปัจจุบัน



เมืองมุมไบ อินเดีย

สภาพสังคมที่แร้นแค้นยากจน และมีความเหลื่อมล้ำทางสังคมอยู่ จนทำให้นักท่องเที่ยวทั่วไปคิดไม่อยากจะไปเยือน ไม่ใช่เมืองที่มาเที่ยวอย่างน่าอภิรมย์ และจะกลัวไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ย่านสลัมแห่งหนึ่งในมุมไบ


เริ่มต้นอาคาร “สถานีรถไฟวิคตอเรียเทอมินาส” หรือในชื่ออินเดียใหม่ว่า “ฉัตรปตี ศิวาจีเทอมินาส” ที่ได้รับการตั้งชื่อตามพระนามพระราชินีวิคตอเรีย ก่อสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียโกธิค ผสมผสานกับงานศิลปะแบบอินเดีย อันทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ยังคงตั้งโดดเด่น เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แวะเวียนมาชมไม่เว้นวัน

สถานีรถไฟวิคตอเรียเทอมินาส

นอกจากนั้น ยังมี “อาคารที่ทำการรัฐบาล” ที่สวยงาม “มหาวิทยาลัยมุมไบที่มีหอนาฬิกาขนาดใหญ่ละม้ายคล้ายหอนาฬิกาบิ๊กเบนในประเทศ อังกฤษ” สูงสง่าอวดสายตาแขกต่างเมือง รวมถึงอาคารร้านค้า และโบสถ์ในคริสต์ศาสนา

จัสตุรัสมุสลิมในมุมไบ


มุมไบ หรือ บอมเบย์ ยังมีชื่อเสียงโด่งดัง ในฐานะ “ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ของประเทศ รวมทั้งยังเป็นเมืองที่ผลิตภาพยนตร์มากที่สุดในโลก ประมาณ 800 เรื่องต่อปี” จนได้เรียกขานกันว่า“บอลลีวู้ด”
ความเจริญก้าว หน้าและฐานะทางเศรษฐกิจของคนที่นี่ เห็นได้ชัดจากพาหนะที่ขับขี่ ทั้งรถยุโรปหรูราคาแพง รถเก๋งขนาดกะทัดรัด เมดอินอินเดียยี่ห้อ “ทาทา” มอเตอร์ไซค์ จักรยาน ไปจนถึงวัวเทียมเกวียน วิ่งกันเกลื่อนเมือง แม้ในอดีตเรื่องชนชั้นวรรณะจะมีความสำคัญต่อการกำหนดบทบาทของคนในสังคม อินเดียเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบัน เมื่อระบบชนชั้นอ่อนแรงลง ความสามารถทางเศรษฐกิจ การศึกษา และเงินในกระเป๋า ก็เริ่มเข้ามาแทนที่ กระนั้นยังมีช่องว่างระหว่างคนจน และรวยให้เห็นมากมาย
ทั้งความจอแจบนท้องถนน เสียงแตรที่ดังขึ้นแทบจะตลอดเวลา เมื่อเดินไปตามทางเท้า ก็เจอคนขายลอตเตอรี่ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เจ้าของวัวที่เดินจูงวัวไปบนถนนปะปนกับรถโดยสารที่เร่งรีบรับส่งผู้คนไปทำ งาน เด็กนักเรียนเดินเล่น เดินคุยกันไปบนถนน ก่อนจะเข้าโรงเรียน ยังมีคนจูงวัวเดินผ่านไปมาให้เห็นเสมอ มีทั้งเพื่อให้คนทั่วไปได้นำหญ้ามาเลี้ยงวัวในฐานะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และที่เทียมเกวียนไว้พร้อมสำหรับเป็นพาหนะเดินทาง เพื่อการขนสัมภาระต่างๆ ฯลฯ

วัวเดินผ่านไปมาบนถนน

นอกจากเรื่องคนที่น่าสนใจแล้ว สถานที่แห่งสำคัญที่พลาดไม่ได้ก็คือ “ประตูสู่อินเดีย” (Gateway of India) ริมฝั่งทะเลอาระเบียน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมุมไบ สร้างขึ้นเพื่อเป็น “อนุสรณ์ในการเสด็จมาเยือนมุมไบของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และสมเด็จพระราชินีแมรี่” ในปี ค.ศ.1911 เพื่อทรงร่วมงานเดลีดารบัร ความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะของท้องถิ่น กับแบบมุสลิมของรัฐคุชราต ประกอบกับความสูงกว่า 80 ฟุต ของประตูสู่อินเดีย ทำให้ที่นี่เป็นที่หมายสำคัญแห่งแรกๆ ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมาสู่มุมไบ

แม้ปัจจุบันนี้ เมืองมุมไบ จะมีเรื่องเศรษฐกิจการค้าการลงทุนเข้ามามากมาย เริ่มเข้าใกล้ระบบทุนนิยมแบบเต็มตัว แต่สภาพทั่วไปโดยรอบของตัวเมืองมุมไบแห่งนี้ ยังคงมีวิถีชีวิตแบบเดิมที่คนในพื้นที่ยังคงปฏิบัติกันอยู่เหมือนเดิม และรอต้อนรับให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสกลิ่นอายตะวันตกในมุมหนึ่งของดินแดนชมพูทวีปแห่งนี้
อีกมุมที่โรงแรมทัชมาฮาล มุมไบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น