วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

10 อันดับ ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุด

อันดับ 10. Great Basin Desert
ทะเลทรายเกรทเบซิน อยู่ทวีปอเมริกาเหนือ ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่ทั้งหมด 492,000 ตารางกิโลเมตร
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 9. Syrian Desert
ทะเลทรายซีเรีย ครอบคลุมพื้นที่ในเขตประเทศซีเรีย อิรัก ซาอุดิอารเบีย จอร์แดน และส่วนหนึ่งของอิสราเอล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง มีพื้นที่ทั้งหมด 492,000 ตารางกิโลเมตร
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 8. Great Victoria Desert
ทะเลทรายเกรทวิคตอเรีย อยู่ทางตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลทรายกิบสัน กับ ที่ราบนัลลาร์บอร์ มีเนื้อที่ประมาณ 424,000 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่โล่ง แห้งแล้ง กว้างใหญ่ แทบจะไม่มีพืชเจริญเติบโต จะมีก็เพียงหญ้าสนามสปินิเฟกซ์
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 7. Patagonian Desert
ทะเลทรายปาตาโกเนีย อยู่ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ ในเขตที่ราบสูงปาตาโกเนีย ประเทศอาร์เจนติน่า และ ชิลี มีพื้นที่ทั้งหมด 670,000 ตารางกิโลเมตร
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 6. Kalahari Desert
ทะเลทรายคาลาฮารี ครอบคลุมเนื้อที่ 5 ประเทศ ได้แก่ แอฟริกาใต้ อังโกล่า นามิเบีย บอสวาน่า และ ซิมบับเว มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 900,000 ตารางกิโลเมตร ขนาดใหญ่มากกว่า 2 เท่าของประเทศไทย!
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 5. The Gobi Desert
ทะเลทรายโกบี อยู่บริเวณรอยต่อระหว่าง ประเทศมองโกเลียตอนใต้ กับ เขตปกครองตนเองมองโกเลียทางตอนเหนือของประเทศจีน โกบี เป็นทะเลทรายที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเหนือระดับน้ำทะเล 900-1,500 เมตร ทอดตัวโค้งยาว 1,600 กิโลเมตร ภูมิศาสตร์ด้านตะวันออกเป็นหินล้วน ด้านตะวันตกเป็นทราย มีพื้นที่ทั้งหมด 1.3 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่ประมาณรัฐอลาสก้าของสหรัฐอเมริกา!
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 4. Arabian Desert
ทะเลทรายอาหรับ อยู่ในคาบสมุทรอาหรับ ประเทศซาอุดีอาระเบีย และมีพื้นที่ในเขตประเทศจอร์แดน อิรัก คูเวต กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน และเยเมน ตรงกลางมีทะเลทรายรุบัลคอลีง มีพื้นที่ทั้งหมด 2,330,000 ตารางกิโลเมตร
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 3. Sahara Desert
ทะเลทรายสะฮารา อยู่ในทวีปแอฟริกา เป็นดินแดนแห้งแล้ง มีพื้นที่กว่า 9,000,000 ตารางกิโลเมตร อาณาเขตด้านทิศตะวันตกจรดมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศเหนือคือเทือกเขาแอตลาสและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทิศตะวันออกจรดทะเลแดงและประเทศอียิปต์ ทิศใต้จรดประเทศซูดานและหุบเขาของแม่น้ำไนเจอร์
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 2. Arctic Desert
อาร์กติก พื้นที่บริเวณขั้วโลกเหนือ ครอบคลุมพื้นที่หลายประเทศ เช่น แคนาดา กรีนแลนด์ รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน และฟินแลนด์ รวมถึงบริเวณมหาสมุทรอาร์กติกด้วย พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ปราศจากพืชพันธุ์ มีพื้นที่ทั้งหมด 13,700,000 ตารางกิโลเมตร
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 1. Antarctic Desert
แอนตาร์กติกา เป็นทวีปที่อยู่รอบขั้วโลกใต้ของโลก ล้อมรอบด้วยมหาสมุทร ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอาร์กติกที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ แอนตาร์กติกา ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน กั้นโดยเทือกเขาทรานส์แอนตาร์กติก ถือเป็น ดินแดนที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในโลก พื้นที่เกือบทั้งหมดปกคลุมด้วยน้ำแข็ง และนับเป็นดินแดนที่แห้งแล้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีมนุษย์ตั้งรกรากอยู่อาศัยอย่างถาวร สิ่งมีชีวิตท้องถิ่น ได้แก่ เพนกวิน แมวน้ำ และสาหร่าย มีพื้นที่ทั้งหมด 13,829,430 ตารางกิโลเมตร


ข้อมูล : www.worldlistmania.com เรียบเรียง : travel.mthai.com

อ่างเก็บน้ำ Ivanhoe ตอบโต้สารก่อมะเร็ง ด้วย Black balls

กลยุทธ์ Black balls ลูกบอลจัดการน้ำ กว่า 400,000 ลูก ที่ปกคลุมทั่วบริเวณ อ่างเก็บน้ำ Ivanhoe แห่ง ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

วิกฤติ! อ่างเก็บน้ำ Ivanhoe

อ่างเก็บน้ำ Ivanhoe ลอสแองเจลิส
ในปี 2007 สำนักจัดการคุณภาพน้ำ ลอสแองเจลิส ตรวจพบสารโบรเมตในปริมาณสูง ที่ อ่างเก็บน้ำ Ivanhoe  ซึ่งเป็น “สารก่อมะเร็ง” ที่เกิดจากโบรไมด์และคลอรีนในน้ำทำปฏิกิริยากับแสงแดด ปกติแล้ว โบรไมด์ที่พบในน้ำใต้ดิน และคลอรีนถือเป็นสารที่มีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย แต่เมื่อต้องแสงผสานแดด จึงเกิดเป็นอนุภาคที่ร้ายแรง
และ อ่างเก็บน้ำ Ivanhoe ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้บริการมาถึง 200 ปี มีผู้มาเยือนกว่า 600,000 คน ทาง สำนักจัดการคุณภาพน้ำ จึงตระหนักถึงปัญหาและเร่งแก้ไข โดยเริ่มสร้าง อ่างเก็บน้ำใต้ดิน แห่งใหม่ที่ Griffith Park แต่ขณะรอของใหม่ ก็ต้องหันมารักษาสภาพน้ำของเก่าให้ห่างไกลจากแสงแดดให้มากที่สุด
ivanhoe
นำมาซึ่งวิธีแก้โดยใช้วัตถุปกคลุม อ่างเก็บน้ำ Ivanhoe สิ่งที่ช่วยได้แน่ๆ คือ ผ้าใบและแผ่นโลหะ แต่ทั้งสองสิ่งนี้ก็ต้องใช้งบประมาณที่สูงมากและใช้ระยะเวลในการติดตั้งนานเกินไป Brian White นักชีววิทยาของ DWP จึงแนะแนวทางแก้ปัญหาคล้าย “bird balls” ลูกบอลซึ่งใช้ป้องกันฝูงนกกีดขวางเส้นทางของเครื่องบินขณะร่อนลงรันเวย์ที่เปียกชื้น
ด้วยทฤษฎีลูกกลมๆ ปฏิบัติการ Black balls จึงเกิดขึ้น ลูกบอลพลาสติก 400,000 ลูก ราคาเพียงลูกละ 40 เซนต์ เคลือบด้วยคาร์บอนและเป็นสีดำ ซึ่งเป็นสีที่หักเหรังสีอัลตราไวโอเลตออกไปได้ดีที่สุด ถูกทิ้งลง อ่างเก็บน้ำ Ivanhoe เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2008 เพื่อปกป้องแสงแดดไม่ให้กระทบสารในน้ำ แต่ต้องใช้เวลาในการบำบัดราว 4-5 ปี จนกว่า อ่างเก็บน้ำใต้ดิน แห่งใหม่จะเสร็จสมบูรณ์
Black balls นับแสน ปกคลุมทั่ว อ่างเก็บน้ำ Ivanhoe

อ่างเก็บน้ำ ivanhoe ลองแองเจลิส อเมริกา

ข้อมูล www.amusingplanet.com เรียบเรียง : travel.mthai.com

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

Tokyo Skytree หอคอยที่สูงที่สุดในโลก

Tokyo Skytree (โตเกียวสกายทรี) หรือ โตเกียวทาวเวอร์แห่งใหม่ (New Tokyo Tower) ทำหน้าที่เป็นหอสื่อสาร กระจายคลื่น ตั้งอยู่ที่ เขตซุมิดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2555 Tokyo Skytree ได้รับการบันทึกลงกินเนสส์บุ๊คว่าเป็น หอคอยที่สูงที่สุดในโลก และถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงอยู่ที่ 634 เมตร (2,080 ฟุต)

 
Tokyo Skytree
Tokyo Skytree Tower
แสงไฟสว่างไสวที่ตัวหอคอย Tokyo Skytree จะเปิดสลับสีกันระหว่างสีฟ้าและสีม่วง และสีอื่นๆ ตามเทศกาลพิเศษ รวมถึงแสงภายในตัวอาคารจะเป็นสีเดียว สอดคล้องกับแสงไฟภายนอก
Tokyo Skytree Tower

ที่มา : http://japaijapan.com

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

El Caminito del Rey เส้นทางที่อันตรายที่สุดในโลก

El Caminito del Rey เส้นทางที่อันตรายที่สุดในโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1905 เพื่อให้คนงานใช้เป็นทางสัญจรระหว่าง น้ำตก Chorro และ น้ำตก Gaitanejo ในเมือง Malaga ทางตอนใต้ของสเปน



 เส้นทางที่อันตรายที่สุดในโลก
เส้นทางที่อันตรายที่สุดในโลก มีความกว้างเพียง 1 เมตร และสูงเหนือแม่น้ำด้านล่าง 100 เมตร โครงสร้างเป็นปูนยึดกับเหล็กทางรถไฟ ค้ำด้วยเสาทำมุม 45 องศากับหน้าผาหิน เป็นเส้นทางที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม ตลอดเส้นมีซากปูนพังเป็นระยะ สุดท้ายเส้นทางนี้ก็ถูกปิดตัวลง
 

 El Caminito del Rey
เส้นทางที่อันตรายที่สุดในโลก สเปน

ข้อมูล : amazingstuff.co.uk เรียบเรียง : travel.mthai.com

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

10 สะพานที่สวยที่สุดในโลก

อันดับที่ 10
The Khaju Bridge ประเทศอิหร่าน
The Khaju Bridge ประเทศอิหร่าน
The Khaju Bridge ประเทศอิหร่าน
  
อันดับที่ 9
Pont du Gard ประเทศฝรั่งเศส
Pont du Gard ประเทศฝรั่งเศส
  
อันดับที่ 8
Bridge of Sighs เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
Bridge of Sighs เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
  
อันดับที่ 7
Iron Bridge ประเทศอังกฤษ
Iron Bridge ประเทศอังกฤษ
Iron Bridge ประเทศอังกฤษ
  
อันดับที่ 6
Covered Bridges ประเทศแคนาดา
Covered Bridges ประเทศแคนาดา
Covered Bridges ประเทศแคนาดา
  
อันดับที่ 5
Ponte Vecchio ประเทศอิตาลี
Ponte Vecchio ประเทศอิตาลี
Ponte Vecchio ประเทศอิตาลี

อันดับที่ 4
The Wind and Rain Bridge ประเทศจีน
The Wind and Rain Bridge ประเทศจีน
  
อันดับที่ 3
Brooklyn Bridge มหานครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา
Brooklyn Bridge มหานครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา
Brooklyn Bridge มหานครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา

อันดับที่ 2
Tower Bridge กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
Tower Bridge กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
Tower Bridge กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

อันดับที่ 1
Golden Gate Bridge มหานครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
Golden Gate Bridge มหานครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
Golden Gate Bridge มหานครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
………………………………………………
 10 สะพานที่สวยที่สุดในโลก
ข้อมูลและภาพประกอบจาก :http://dek-d.com

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

Machu Picchu เมืองสาบสูญแห่งอินคา

Machu Picchu (มาชูปิกชู) ซากอารยธรรมโบราณตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในประเทศเปรู  หรือนิยมเรียกอีกชื่อว่า เมืองสาบสูญแห่งอินคา อารยธรรมแห่งนี้คาดว่าสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1450 แต่ได้ถูกหลงลืมไป จนกระทั่งมีการค้นพบอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2454 โดยนักโบราณคดี ชื่อ ไฮแรม บิงแฮม เป็นหลักฐานสำคัญของจักรวรรดิอินคา  และองค์กรยูเนสโกได้กำหนดให้ Machu Picchu เป็นมรดกโลก ในปี พ.ศ. 2526
Machu Picchu มีความสูงอยู่ที่ 2,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นศูนย์กลางความสำคัญทางโบราณคดีของอเมริกาใต้ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดใจนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนเปรูเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการมาเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์จากอารยสถานแห่งนี้ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 มาชูปิกชู ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการลงคะแนนทั่วโลกทั้งทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากเมืองกุสโกไปยังนคร มาชูปิกชู โดยทางรถไฟและรถโดยสารประจำทางเป็นระยะทาง 96 กม. ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ภาพทิวทัศน์ จากจุดชมวิว บนยอด Huayna Picchu สามารถมองเห็นภาพแม่น้ำ Urubamba (อูรูบัมบา) ไหลตัดผ่านหุบเขา และฐานที่ตั้งชนเผ่าอินคาอยู่ไกลๆ
แม่น้ำ Urubamba
Machu Picchu เมืองสาบสูญแห่งอินคา
กำแพงหินที่เห็นอยู่นี้ สร้างจากฝีมือชาวอินคา ซึ่งช่วยกันขนย้ายกองหินน้ำหนักกว่าร้อยตัน เนื่องจากไม่มียานพาหนะและเครื่องมือ
ลามะ สัตว์สี่เท้าซึ่งมีรูปร่างคล้ายกวาง แต่มีคอยาวเหมือนอูฐ ชาวอินคานิยมเลี้ยงเพื่อใช้ขนสัมภาระ พบเห็นได้ทั่วไปที่ Machu Picchu มักอยู่กันเป็นฝูง นอกจากประโยชน์เรื่องแบกหามแล้ว ร่างกายส่วนอื่นของลามะยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อ นม หนัง รวมทั้งขนที่นำมาถักทอเป็นเครื่องนุ่งห่มของชาวอินคา ยิ่งไปกว่านั้น มูลของลามะ ยังนำมาทำเป็นถ่านเผาได้ด้วย
…………………………………………………………….
Machu Picchu เมืองสาบสูญแห่งอินคา
ที่มา : http://travel.nationalgeographic.com