ผลสำรวจระบุว่า กรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรียซึ่งมีประชากรเพียง 1.7 ล้านคน ครองแชมป์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในฐานะเมืองที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดจากการมีระบบประกันสุขภาพดี ราคาอสังหาริมทรัพย์และค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนที่ยังไม่สูงมากนัก และความมีสีสันด้านวัฒนธรรมของเมือง เมอร์เซอร์ซึ่งทำการสำรวจคุณภาพชีวิตของประชากรทั่วโลกเป็นประจำทุกปีระบุว่าทีมวิจัยของตนใช้ปัจจัยในการประเมินที่หลากหลายถึง 39 ประเภท เช่น ปัจจัยด้านความมีเสถียรภาพทางการเมือง ระบบประกันสุขภาพ คุณภาพการศึกษา อัตราการเกิดอาชญากรรม ความก้าวหน้าของระบบขนส่งมวลชน และความพร้อมของแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะต้องเผชิญกับวิกฤตด้านหนี้สินรุนแรง แต่เมืองในยุโรปกลับยังสามารถติดโผเมืองที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตดี โดยที่เยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์มีเมืองติดใน 10 อันดับแรกถึงชาติละ 3 เมือง โดย 10 เมืองที่ถูกระบุว่า ประชากรมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดของโลกประจำปี 2012 ประกอบด้วย กรุงเวียนนาของออสเตรีย,ซูริคของสวิตเซอร์แลนด์,ออคแลนด์ของนิวซีแลนด์, มิวนิคของเยอรมนี,แวนคูเวอร์ในแคนาดา,เมือง ดุสเซลดอร์ฟของเยอรมนี,นครแฟรงค์เฟิร์ตของเยอรมนี,นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์, กรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก และกรุงเบิร์น เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ ตามลำดับ ส่วน 10 เมืองที่ถูกจัดให้มีคุณภาพชีวิตของประชากรต่ำที่สุดในโลกประจำปีนี้ ประกอบด้วยกรุงแบกแดดเมืองหลวงของอิรัก,กรุงบังกี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง,กรุงปอร์โต แปรงซ์ของเฮติ, กรุงเอ็น ฌาเมนาของชาด, กรุงคาร์ทูมของซูดาน,กรุงซานา เมืองหลวงเยเมน,กรุงบราซซาวิลล์ของคองโก,กรุงทบิลิซีของจอร์เจีย, กรุงนูอักช็อตต์ของมอริตาเนีย และกรุงกินชาซาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์ คองโก) ตามลำดับ | ||||
|
วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556
“เวียนนา” ครองแชมป์เมืองที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตดีสุดในโลก 4 ปีซ้อน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น